แหล่งท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง)    
          อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เป็นหาดทรายที่มีความยาวต่อเนื่องกันถึง 13 กิโลเมตร ครอบคลุมเนื้อที่ 56,250 ไร่ โดยเริ่มจาก "หาดในทอน" ใช้เส้นทางไปอุทยานฯ เลี้ยวซ้ายที่หลักกิโลเมตร 21 - 22 เมื่อถึงทางแยกเข้าบ้านสาคู เลี้ยวซ้ายไปประมาณ กิโลเมตร หาดในทอน เป็นเวิ้งอ่าวที่งามแปลกตาทอดโค้งจากตัวเกาะเป็นที่กำบังคลื่นลมได้อย่างดี และเป็นหาดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ


          ส่วน "หาดในยาง" เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ เป็นหาดที่มีสวนสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนและเล่นน้ำ นอกจากนี้ ยังมีแนวปะการังขนาดใหญ่เป็นที่อาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด โดยเฉพาะเต่าทะเลซึ่งจะขึ้นมาวางไข่บนหาด ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ แต่ปัจจุบันเต่าทะเลมีจำนวนลดลงมากจนแทบจะไม่เห็นเต่าขึ้นมาวางไข่อีกเลย 
            
          "หาดไม้ขาว" หรือ "หาดสนามบิน" ไปตามเส้นทางถนนเทพกษัตรีผ่านทางแยกเข้าสนามบิน ตรงไปทางสะพานสารสินจะมีทางแยกด้านซ้ายมือ มีป้ายบอกทางเข้าหาดไม้ขาว เลี้ยวซ้ายไป 3.5 กิโลเมตร ก็จะถึงหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นหาดที่มีจั๊กจั่นทะเลและเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่เช่นเดียวกับหาดในยาง 
  
          "หาดทรายแก้ว" เป็นหาดทรายขาวทอดยาวขนานกับทิวต้นสนอยู่ถัดจากหาดไม้ขาวไปจนถึงสะพานสารสิน นับเป็นหาดที่อยู่เหนือสุดของเกาะภูเก็ต 
อนุสาวรีย์วีรสตรี 
  
          อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทร ตั้งอยู่ที่สี่แยกท่าเรือ ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 12 กิโลเมตร เป็นอนุสาวรีย์ที่ชาวภูเก็ตร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อปี 2509 เพื่อเชิดชูเกียรติวีรสตรีผู้กล้าหาญแห่งเมืองถลาง
หาดป่าตอง
  

          หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนวิชิตสงคราม หรือทางหลวงหมายเลข 4020 ไป กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4029 ไปอีก กิโลเมตร เป็นอ่าวที่มีความโค้งมาก หาดทรายงดงามเป็นแนวยาว กิโลเมตร น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ บริเวณหาดมีที่พัก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การค้า แหล่งบันเทิง บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน

หอชมวิวเขาขาด 

          
ตั้งอยู่บริเวณอ่าวมะขาม แหลมพันวา เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต สามารถมองเห็นทัศนียภาพทั่วเกาะภูเก็ตได้ถึง 360 องศา อาทิ อ่าวฉลอง แหลมพันวา เกาะสิเหร่ เกาะบอน และเกาะน้อยใหญ่รอบ ๆ ภูเก็ต รวมทั้งตัวเมืองภูเก็ต



แหลมสิงห์ 
หาดทรายแหลมสิงห์เป็นหาดเล็ก ๆ ทรายขาวสะอาด ทางซ้ายมือของหาดเป็นแหลมเล็ก ๆ ที่มีโขดหินสวยงาม เรียกว่า แหลมสิงห์
 ในตัวเมืองภูเก็ตนั้น ส่วนมากจะเป็นตึกสมัยเก่า มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สร้างขึ้นเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งกิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ ๆ อาทิ อาคารปัจจุบันที่ทำการศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด ธนาคารนครหลวงไทย นอกจากนี้ ยังมีอาคารบางส่วนที่ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนมาผสมผสาน เรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบ "ชิโน - โปรตุกีส" (Chinois Postugess) คืออาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก สามารถหาชมได้บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช และถนนกระ 
วัดพระทอง (พระผุด)
 "วัดพระทอง" หรือ "พระผุด" ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร มีลักษณะเป็นพระครึ่งองค์ โดยมีประวัติความเป็นมาว่า "พระผุด" คือ พระพุทธรูปทองคำจากเมืองจีน มีอายุราว ๆ 2,000 ปี ชาวทิเบตนำลงเรือมาทางมหาสมุทรอินเดีย แต่เกิดพายุโหมซัดเรือเข้ามายังฝั่งพังงาและเกิดจมลง ต่อมาเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมเซาะดินจนเห็นเป็นพระเกตุมาลาโผล่พ้นเหนือพื้นดินขึ้นมา และเมื่อเจ้าเมืองทราบได้มีการสั่งการให้ขุดพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้บูชา แต่ไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ เพราะบางคนถูกตัวต่อตัวแตนอาละวาดเป็นพิษถึงแก่ความตาย เจ้าเมืองจึงสั่งให้ทำที่มุงที่บังเป็นสถานที่กราบไหว้เรื่อยมา ชาวบ้านจึงเรียกว่ากันพระผุด เพราะเป็นพระพุทธรูปที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินโดยมีความสูงประมาณ ศอก ซึ่งคนจีนเรียกว่า "ภูปุ๊ค" (พู่ฮุก) และเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน คนจีนในภูเก็ต พังงา ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และกระบี่ จะพากันมานมัสการเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้ 
ภูเก็ตแฟนตาซี
ป็นอาณาจักรมหัศจรรย์ที่รวบรวมความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมไทย โดยมีส่วนสำคัญคือ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยผสมผสานเทคโนโลยีระดับโลก"มหัศจรรย์กมลา" ณ โรงละครวังไอยรา ที่สามารถจุจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 3,000 ที่นั่ง "ภัตตาคารมโนห์ราทอง" ที่พร้อมให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์ทั้งไทยและนานาชาติ โดยสามารถจุจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 4,000 ที่นั่ง อลังการงานสร้างสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านหรรษา แหล่งรวมสินค้าหัตถกรรมไทย และกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ อีกมากมาย สามารถแวะมาชมมหัศจรรย์ความบันเทิงสุดอลังการนี้ได้ ตระการตาสุด ๆ ขอบอก
 จุดชมวิวกังหันลม
  เป็นจุดชมวิวด้านทิศใต้ของเกาะภูเก็ต อยู่ถัดมาจากแหลมพรหมเทพเล็กน้อย จากจุดชมวิวแห่งนี้จะมองเห็นแหลมพรหมเทพและหาดยะนุ้ย (หาดเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างแหลมพรหมเทพกับจุดชมวิวแห่งนี้) อีกด้านหนึ่งจะมองเห็นหาดในหานอยู่ไกล ๆ จุดชมวิวแห่งนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยรู้จัก จึงมีคนไม่มากนัก สามารถหลบผู้คนจากแหลมพรหมเทพมาชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ได้ รับรองสวยงดงามไม่แพ้กัน และหากวันไหนโชคดีหน่อยจะสามารถชมการกระโดดร่มร่อนกันได้อีกด้วย


นางเรือกอจ๊าน ชมป่าชายเลน
 "เรือกอจ๊าน" หรือ "เรือท้ายเป็ด" เป็นเรือสุดคลาสสิกที่สันนิษฐานว่าน่าจะนำมาใช้ในภูเก็ตพร้อมกับชาวจีนที่เข้ามาดูลู่ทางทำมาหากินในอดีต ซึ่ง "กอจ๊าน" หมายถึง อวนจับปลา มีต้นกำเนิดมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยจะใช้อวนกอจ๊านกับเรือที่สร้างมาโดยเฉพาะที่เรียกว่า "เรือกอจ๊าน" ซึ่งปัจจุบันนับว่าหาดูได้ยาก และมีในจังหวัดภูเก็ตเพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยลักษณะของตัวเรือจะประกอบไปด้วยไม้ทั้งลำและใช้ชัน (ยางไม้ชนิดหนึ่ง) ในการยารอยต่อระหว่างพื้นไม้ ลำเรือจะมีขนาดเล็กสามารถรับน้ำหนักผู้โดยสารได้มากสุด คน ขับเคลื่อนโดยใช้ผ้าใบและไม้พายยาว จึงทำให้เรือกอจ๊านกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นภูเก็ตที่หานั่งได้ยากขึ้นทุกวัน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งเรือกอจ๊านสัมผัสธรรมชาติทางทะเล ชมป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมกับแวะดูฝูงลิงแสมที่อาศัยอยู่ในป่าโกงกางกันได้ทุกวัน สนใจติดต่อได้ที่ชมรมกลุ่มกอจ้าน (ประมงพื้นบ้าน) รีบ ๆ กันหน่อยนะจ๊ะก่อนเรือนี้จะกลายเป็นตำนาน

พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว
 ตึกเก่าสไตล์ชิโน-ยูโรเปียน อดีตโรงเรียนจีนเก่าแก่ ภายในเป็นแหล่งรวมเรื่องราวของชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามาพักพิงอยู่ในเขตตลาด มีการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจทั้งสิ้น 14 ห้อง โดยแนะนำให้เดินดูตั้งแต่ห้องที่ ซึ่งเป็นห้องที่มีวีดิทัศน์บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของชาวจีนฮกเกี้ยน กวางตุ้ง ไหหลำ จากถิ่นกำเนิดสู่ภูเก็ตสายสัมพันธ์กับแผ่นดินแม่ สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างตัวสัมมาอาชีพและภูมิปัญญา อาทิ การทำเหมืองแร่ สวนยางพารา วัฒนธรรมการกินอยู่ การสร้างบ้าน เครื่องแต่งกาย ประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนศึกษาแบบอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงประวัติโรงเรียนและครูใหญ่คนสำคัญ 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น